คะแนนสอบที่นิยมใช้ในการยื่นเข้าคณะอินเตอร์ในไทย มีดังนี้

สวัสดีค่ะ ในบทความนี้ “พี่พิงค์” จะพาน้อง ๆ มาทำความรู้จักกับการเรียนหลักสูตรนานาชาติ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า ภาคอินเตอร์ ในมหาวิทยาลัยกันให้มากขึ้น หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าภาคไทยหรือภาคปกติกับภาคอินเตอร์นี่มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน มีไลฟ์สไตล์การเรียน การทำกิจกรรมที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง แล้วตัวเราเองเหมาะกับการเรียนภาคอินเตอร์มากน้อยแค่ไหนกัน เดี๋ยวเราไปดูกันในบทความนี้ได้เลยค่ะ

การไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะการเรียนอินเตอร์ ทำให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และได้ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่มีความหลากหลายทั้งด้านภาษา สำเนียง และวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันเพื่อขอทุนการศึกษานั่นเองค่ะ

ทำความรู้จักหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ ส่งลูกเข้าเรียนหลักสูตรไหนดี?

โดยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าไปดูโรงเรียนนานาชาติโดยทาง databases ได้แบ่งโรงเรียนไว้ตามพื้นที่ได้จากเว็บไซด์นี้ครับ 

ติวเข้า จุฬาอินเตอร์ ธรรมศาสตร์อินเตอร์

ได้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเรามีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องมีการสอบเพื่อใช้คะแนนบางอย่างเพิ่มเติมในการศึกษาต่อต่างประเทศ ตามที่มหาวิทยาลัยต่างชาติแต่ละที่กำหนด ซึ่งนอกจากการสอบแล้วยังต้องจัดเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ด้วย ที่สำคัญยังต้องหาที่พักที่ปลอดภัย เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการไปเรียนต่ออีกด้วย

ในการสอบเข้าเรียนภาคอินเตอร์จะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้

หลังจากได้รู้ว่าเรียนอินเตอร์ดีอย่างไรแล้ว มาดูกันว่าต้องเตรียมตัวสอบอะไรบ้าง แพทย์อินเตอร์ ใช้คะแนนอะไรบ้าง ซึ่งได้แก่การทำข้อสอบต่างๆ ตามมาตรฐาน เช่น

ขอยกตัวอย่างคะแนนต่างๆ ของแต่ละคณะภาคอินเตอร์ ซึ่งมีคะแนนขั้นต่ำ ดังนี้

บทความนี้เรามีข้อสรุปมาให้ทุกคน ตามมาเก็บข้อมูลไว้ได้เลย

หลักสูตรวิชาของภาคเรียนอินเตอร์จะมีหลากหลาย ยืดหยุ่น และไม่ค่อยตายตัว นิสิตนักศึกษาสามารถเลือกเรียนวิชาที่สนใจอื่นๆ เพิ่มเติมจากวิชาหลักได้ แต่สำหรับการเรียนภาคปกติส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรที่ตายตัวมากกว่า

*ข้อกำหนดของแต่ละมหาวิทยาลัยอาจแตกต่างกัน น้อง ๆ สามารถตรวจสอบเกณฑ์ผ่านเว็บไซต์มหาวิทยาลัย

หนึ่งในสิ่งดี ๆ เพื่อสังคม โดยกลุ่มทรู